top of page
ค้นหา

ที่ปรึกษารัฐมนตรี ก.อุตฯ สุชาติ เยี่ยมชมฟาร์มกัญชงกัญชาที่มีมาตรฐานการรับรอง GAP/ GACP ของ บริษัท แอมเบอร์ ฟาร์ม จำกัด




วันที่ 15 มีนาคม 2566 นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เยี่ยมชมโรงปลูกกัญชากัญชงของ บริษัท แอมเบอร์ ฟาร์ม จำกัด หนึ่งในโครงการร่วมวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)โดยมี ดร.ชลิตา มัธยมบุรุษ รักษาการแทนรองผู้อำนวยการสำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) ผศ.ลือพงษ์ ลือนาม รองคณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร และทีมงานของบริษัท แอมเบอร์ ฟาร์ม จำกัด เป็นผู้ช่วยในการดำเนินการ โดยโครงการร่วมวิจัยนี้ถือเป็นโครงการตัวอย่างที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) จาก กรมวิชาการเกษตร และอยู่ระหว่างดำเนินการทำ GACP WHO จาก SGS โดยการเข้าเยี่ยมชมครั้งนี้ได้มุ่งเน้นถึงโครงการวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี รวมไปถึงมาตรฐานการปลูกที่สมบูรณ์ ครบวงจร




บริษัท แอมเบอร์ ฟาร์ม จำกัด เป็นบริษัท ที่จัดทำโครงการวิจัยในรูปแบบของโรงงานผลิตพืช (Plant Factory) ระดับ Medical-Grade โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ในด้านคุณภาพของแหล่งน้ำ พื้นที่ในการปลูก สารอาหาร วัสดุที่ใช้ การจัดการกระบวนการผลิต การเก็บเกี่ยว และอื่น ๆ จาก กรมวิชาการเกษตร การปลูกนั้นจะใช้แบบระบบปิด (Indoor Cultivation) ที่สามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมในการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างเหมาะสม โดยมีการออกแบบคลื่นแสงและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงควบคู่กับระบบ IoT เต็มรูปแบบ ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละหลายรอบ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ปราศจากศัตรูพืช จุดประสงค์เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ได้ในด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร วัตถุดิบอาหารสัตว์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตามมาตรฐานระดับสากล รวมถึงการสร้างประโยชน์สูงสุดแก่สังคม เพื่อก้าวไปสู่การเป็นโครงการชั้นนำระดับอาเซียน นอกจากนี้ทางบริษัท แอมเบอร์ ฟาร์ม จำกัด ยังได้มีการจัดทำห้องปฏิบัติการทดสอบสารสำคัญด้วยเครื่อง HPLC ที่สามารถตรวจสอบสารแคนนาบินอยด์ได้ทั้งหมด 16 สาร จุดประสงค์เพื่อการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ และกำลังเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐาน GACP WHO (Good agricultural and collection practices for medical plants) รวมไปถึงมาตรฐาน ISO/IEC 17025 เพื่อการส่งออกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และเพื่อให้บริการการทดสอบสารสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ









ขอขอบคุณที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม

ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page